ในปี 2018 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับ Google €4.34 พันล้าน ($5 พันล้านดอลลาร์จากนั้น) สำหรับการไม่ปฏิบัติตามกฎการต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป ตามรายงานของ EC Google ได้กำหนดข้อจำกัดที่ผิดกฎหมายสำหรับ Android OEM และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ เพื่อรักษาตำแหน่งที่โดดเด่นในการค้นหาและบริการอื่นๆ Google จำเป็นต้องเปลี่ยนนโยบายภายใน 90 วันหรือต้องเสียค่าปรับสูงสุด 5% ของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยทั่วโลกของ Google ในแต่ละวัน

Google ยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน และ Bloomberg ได้รายงานเกี่ยวกับการพิจารณาคดีที่กำลังดำเนินอยู่

Google อ้างว่าเป็นความนิยมโดยธรรมชาติและไม่ใช่การโกงในห้องลับซึ่งทำให้พวกเขามี ตำแหน่งผูกขาดในการค้นหา

ทนายฝ่ายจำเลยของ Google อ้างว่า Google เป็นที่นิยมมาก จึงเป็นคำค้นหาอันดับหนึ่งใน Bing

“เราได้ส่งหลักฐานที่แสดงว่าการค้นหาที่พบบ่อยที่สุด คำค้นหาเกี่ยวกับ Bing นั้นไกลจาก Google” Alfonso Lamadrid ทนายความของหน่วย Alphabet Inc. กล่าวที่ศาลทั่วไปของสหภาพยุโรปในลักเซมเบิร์ก

เขายังอ้างว่าส่วนแบ่งการตลาดของ Google นั้นสะท้อนถึง 95% ของพวกเขา คะแนนการอนุมัติ

“ผู้คนใช้ Google เพราะพวกเขาเลือก ไม่ใช่เพราะพวกเขาถูกบังคับ” Lamadrid กล่าว “ส่วนแบ่งการตลาดของ Google ในการค้นหาทั่วไปนั้นสอดคล้องกับการสำรวจผู้บริโภคที่แสดงให้เห็นว่า 95% ของผู้ใช้ต้องการให้ Google แข่งขันกับเครื่องมือค้นหา”

Google ขอให้ปรับปี 2018 ให้ลดลง

Google ถูกปรับเนื่องจากสิ่งต่อไปนี้:

กำหนดให้ผู้ผลิตติดตั้งแอป Google Search และแอปเบราว์เซอร์ (Chrome) ล่วงหน้าเป็นเงื่อนไขในการให้สิทธิ์ใช้งาน App Store ของ Google (Play Store) ชำระเงินให้กับบางบริษัท ผู้ผลิตรายใหญ่และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือโดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาติดตั้งแอป Google Search ล่วงหน้าบนอุปกรณ์ของตนเท่านั้น และป้องกันไม่ให้ผู้ผลิตที่ต้องการติดตั้งแอป Google ล่วงหน้าจากการขายอุปกรณ์เคลื่อนที่อัจฉริยะเครื่องเดียวที่ทำงานบน Android เวอร์ชันอื่นที่ไม่ได้รับการอนุมัติจาก Google (เรียกว่า”Android forks”)

ตั้งแต่ปี 2018 แนวทางปฏิบัติของ Google เพิ่มเติม ถูกเปิดเผย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามของพวกเขาที่จะบ่อนทำลายร้านแอปของบุคคลที่สามโดยป้องกันไม่ให้ Android OEM รวมกลุ่มพวกเขาอีกครั้งและจ่ายเงินให้บริษัทเกมเพื่อให้อยู่บนแพลตฟอร์มของตนแต่เพียงผู้เดียว

แม้ว่า Google จะเป็นธรรมดา เป็นที่นิยม สิ่งที่ชัดเจนมากคือบริษัทไม่ได้พึ่งพาความนิยมนั้นเพื่อรักษาอำนาจ และหากพวกเขาได้รับอนุญาตให้วางแผนต่อต้านการแข่งขันต่อไป เราก็อาจไม่เคยเห็นผลิตภัณฑ์ใดดีไปกว่านั้นเข้าตลาด

Categories: IT Info