ในปีนี้ Samsung จะเริ่มฉายรอบปฐมทัศน์ด้วยการนำเสนอ Galaxy S22 Series ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสัปดาห์ และอีกไม่นานเรากำลังรอการประกาศของ Galaxy A53 ซึ่งจะเป็นรุ่นต่อจากรุ่นยอดนิยมเช่น Galaxy A50, Galaxy A51 และ Galaxy A52 Winfuture เว็บไซต์แชร์รูปภาพและคุณลักษณะของสมาร์ทโฟนกับบุคคลทั่วไป
Samsung Galaxy A53
Samsung Galaxy A53 ในแง่ของการออกแบบสืบทอดคุณสมบัติของรุ่นก่อนโดยไม่มีการแทรกแซงจากภายนอก ฝาหลังทำจากพลาสติกและจอแสดงผล Infinity-O พร้อมกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลในตัวติดตั้งอยู่ที่แผงด้านหน้า ที่ด้านหลัง มีการติดตั้งบล็อกสี่เหลี่ยมของกล้องหลักพร้อมเซ็นเซอร์ภาพสี่ตัว 64 MP + 12 MP (มุมกว้างพิเศษ) + 5 MP (เซ็นเซอร์มาโคร) + 5 MP (เซ็นเซอร์ระยะชัดลึก)
Galaxy A53 จะมาพร้อมกับชิปแปดคอร์ที่มีความเร็วนาฬิกา 2.4 GHz (น่าจะเป็น Exynos 1200) จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้วที่มีความละเอียด 2400×1080 พิกเซลพร้อมอัตราการรีเฟรช 120 Hz, 128 แฟลชไดรฟ์ GB และแบตเตอรี่ 5000 mAh พร้อมเครื่องชาร์จ 25 วัตต์ที่รวดเร็ว น้ำหนักของสมาร์ทโฟนจะอยู่ที่ 189 กรัม และความหนาของเคสคือ 8.1 มม. จะรองรับ 5G, NFC, Bluetooth และ Wi-Fi ควรนำเสนอ Galaxy A53 ในต้นฤดูใบไม้ผลิ
ยอดขายสมาร์ทโฟน Samsung
การแพร่ระบาดยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อภาคเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง แต่วิกฤตและการขาดแคลนส่วนประกอบ แม้จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม แต่ก็ยังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ข้อสรุปนี้จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญของ International Data Corporation (IDC) หลังจากวิเคราะห์ตลาดสมาร์ทโฟนทั้งหมดในปี 2564 และไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว
ระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2564 มียอดขาย 362.4 ล้านเครื่องทั่วโลกเมื่อเทียบกับ 374.3 ล้านในปีก่อนหน้า ผู้นำคือ Apple ซึ่งครอง 23.4% ของตลาดอุปกรณ์พกพา ในเชิงปริมาณ มียอดขาย iPhone 84.9 ล้านเครื่อง อันดับที่สองคือ Samsung ซึ่งขายสมาร์ทโฟนได้ 68.9 ล้านเครื่องในไตรมาสที่สี่และคิดเป็น 19%
นอกจากนี้ อันดับที่สามคือ Xiaomi ด้วยสมาร์ทโฟน 45 ล้านเครื่องและส่วนแบ่งการตลาด 12.4% Oppo และ Vivo บุกติด 5 อันดับแรก โดยมีส่วนแบ่ง 8.3% และ 7.8% ตามลำดับ
นอกจากนี้ จากผลงานตลอดปี 2021 ยอดขายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 5.7 %. โดยรวมแล้ว 1.35 พันล้านหน่วยถูกขายเทียบกับ 1.28 พันล้านในปีก่อนหน้า ชื่อของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดสามารถรักษา Samsung ไว้ได้ ด้วยส่วนแบ่ง 20.1% และโทรศัพท์มือถือ 272 ล้านเครื่องขายได้ อันดับสองคือ Apple ด้วยคะแนน 17.4% และ iPhone 235.7 ล้านเครื่องขายได้ อันดับที่สามตกเป็นของ Xiaomi – 14.1% ซึ่งเติบโตอย่างแข็งขันมากกว่าบริษัทอื่น – เพิ่มขึ้น 29.3%