Apple ตั้งมาตรฐานระดับสูงด้วยโปรเซสเซอร์ M1 และเห็นได้ชัดว่าคู่แข่งรายใหญ่จะพยายามเข้าถึง แต่การเริ่มต้นของ Apple อาจเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ดีที่สุดของบริษัทในการก้าวไปข้างหน้า อย่างน้อยก็ชั่วขณะหนึ่ง แต่ความหมายที่แท้จริงก็คือการแข่งขันในกลุ่มนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นข่าวดี
ตามรายงานจาก PCWorld (ผ่าน MacRumors) เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Qualcomm ได้เปลี่ยนไทม์ไลน์เริ่มต้นสำหรับการเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Nuvia ตัวแรกที่ผลิตขึ้น ชิปนี้ถูกกำหนดไว้สำหรับ”ตลาดประสิทธิภาพ”มาโดยตลอด และ Qualcomm ได้วางตำแหน่งให้เป็นคู่แข่งกับโปรเซสเซอร์ M1 ของ Apple อย่างมั่นคง
เมื่อมีการประกาศความพยายามครั้งแรก หน้าต่างการเปิดตัวครั้งแรกคือ”ช่วงปี 2023 ” ตอนนี้เป็น”ช่วงปลายปี 2023″ดูเหมือนว่าเราควรคาดหวังว่าโปรเซสเซอร์ใหม่จะเห็นแสงสว่างในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งวันหยุด ซึ่งอาจเป็นจังหวะที่ดีในส่วนของ Qualcomm ในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีพีซีที่น่าสังเกตบางเครื่องที่ใช้ Windows 11 พร้อมให้ซื้อ
ถึงกระนั้นก็ตาม ควรสังเกตว่า Qualcomm ไม่ได้เรียกสิ่งนี้ว่าความล่าช้าใดๆ:
ปรากฏ ความล่าช้า เนื่องจาก Qualcomm ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงเมื่อปลายปีที่แล้วเกี่ยวกับกรอบเวลา และยังไม่ชัดเจนว่า’สิ่งนั้น’หมายถึงอะไรในแง่ของการสุ่มตัวอย่างชิ้นส่วนหรือการจัดส่ง ตัวแทนของ Qualcomm กล่าวในอีเมลว่าเวลานั้นสอดคล้องกับแผนงานของบริษัทที่นำเสนอในวันนักลงทุนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว”ปี 2023 หมายถึงการเปิดตัวอุปกรณ์”ตัวแทนของ Qualcomm กล่าว
ระยะเวลาของทุกสิ่งอาจมีความสำคัญมากสำหรับ Apple บริษัทเองก็ก้าวกระโดดและก้าวไปสู่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดด วอลคอมม์ยังคงวางตำแหน่งโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูงที่ Nuvia สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในฐานะคู่แข่งของ M1 อย่างไรก็ตาม M1 Pro, M1 Max และแม้แต่ M1 Ultra นั้นเหนือกว่าความสามารถของ SoC เริ่มต้นแล้ว และเราจะได้เห็นโปรเซสเซอร์ M2 ตัวแรกก่อนสิ้นปีนี้
ดังนั้นเราจึงสามารถเป็นชิป M2 Pro และ M2 Max หรือแม้แต่ M3 ได้ เวลาที่คู่แข่ง M1 ของ Qualcomm มองเห็นแสงสว่างของวัน หรือบางทีการไม่ล่าช้าคือ Qualcomm และ Nuvia ที่ปรับแต่งสิ่งต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น และบางทีพวกเขาอาจตั้งเป้าไปที่ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นไปอีกด้วยชิปตัวแรกของพวกเขา
Qualcomm เข้าซื้อกิจการ Nuvia ซึ่งเป็นชิปที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปี. และเป้าหมายนับตั้งแต่นั้นมาก็คือการใช้โปรเซสเซอร์ M-series ของ Apple ดูเหมือนว่าเราจะต้องรออีกสักหน่อยก่อนถึงจะเห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
หวังว่าสิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดทั้งหมดได้อย่างมาก