ได้เวลาบอกลา VR แบบไม่มีโฆษณาแล้ว ในความพยายามที่จะเปลี่ยน Oculus Quest ให้เป็น”แพลตฟอร์มที่พึ่งพาตนเองได้”Facebook กำลังทดสอบโฆษณาใน แอป Quest บางแอป รวมถึงเกม Blaston (ราคา $10) การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งเดือนหลังจากที่ Facebook เพิ่มโฆษณาลงใน Oculus แอปมือถือ
ในบล็อกโพสต์ของ Facebook ที่ประกาศการเปลี่ยนแปลง บริษัทระบุว่าต้องการ”คำติชมจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์และชุมชน”ข้อเสนอแนะดังกล่าวกำลังมาอย่างล้นหลามเมื่อนักเล่นเกม VR โจมตี Oculus Support พร้อมข้อร้องเรียน เป็นการยากที่จะจินตนาการถึงผลลัพธ์อื่นๆ—เกมเมอร์ VR เบื่อหน่ายกับวิธีที่ Facebook บุกรุกบนแพลตฟอร์ม Oculus และด้วยเหตุผลใดก็ตาม Facebook ตัดสินใจทดสอบโฆษณา VR ในแอป แบบชำระเงิน (บริษัทบอกว่ากำลังทดสอบโฆษณาใน”แอปอื่นๆ อีกสองสามแอป”ซึ่ง เราหาไม่เจอ)
แล้วโฆษณา Oculus Quest มีลักษณะอย่างไร พวกมันดูน่ารำคาญและโผล่ขึ้นมาบนพื้นผิวในเกมเหมือนโปสเตอร์เล็กๆ ผู้ใช้สามารถชี้ตัวควบคุมไปที่โฆษณาเพื่อเปิดหรือบันทึกไว้ในภายหลัง Facebook ยังมีการควบคุมเพื่อซ่อนหรือรายงานโฆษณา แม้ว่าการตั้งค่าเหล่านี้จะซ่อนอยู่หลังเมนูแบบเลื่อนลง
เช่นเดียวกับโฆษณา Facebook ทั้งหมด โฆษณา Oculus Quest ได้รับการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณโดยใช้ข้อมูลส่วนตัวของคุณ บริษัทใช้ชุดหูฟัง Oculus เสมอเพื่อรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้ (และเพิ่งได้รับคำสั่งให้เชื่อมโยงชุดหูฟัง Oculus ไปยังบัญชี Facebook) แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้อมูลการเล่นเกมของคุณอาจถูกโยนกลับไปหาคุณผ่านโฆษณาในเกม
Facebook บอกว่าไม่ได้ใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหว เสียง น้ำหนัก หรือกล้องของ Oculus Quest เพื่อการโฆษณา แต่นั่นทำให้เกิดคำถามใหญ่ ถ้า Facebook เปลี่ยนใจล่ะ Facebook สามารถใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหวของคุณเพื่อตรวจจับเมื่อคุณหิวหรือกระหายน้ำ โดยระบุโอกาสที่เหมาะสมที่สุดในการเสิร์ฟโฆษณาอาหารจานด่วนในเกมหรือไม่ การโฆษณาเป็นทางลาดลื่น และขุมทรัพย์ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ฮาร์ดแวร์ VR เก็บรวบรวมอาจดูน่าสนใจเกินกว่าจะมองข้าม
ตามประกาศของ Facebook โฆษณา Quest VR ควรจะช่วยให้นักพัฒนาสร้างรายได้มากขึ้น มุมมองที่สมจริงยิ่งขึ้นคือ Faceboook ต้องการหลีกเลี่ยงรายการการควบคุมความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นบน iOS และ Android Facebook ไม่ต้องกังวลกับการควบคุมความเป็นส่วนตัวบนฮาร์ดแวร์ของตัวเองอีกต่อไป
ต้องการให้ Facebook แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโฆษณา Oculus Quest ใหม่หรือไม่ ไปเที่ยว การสนับสนุน Oculus a> หน้า
ที่มา: Facebook