ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติได้เผยแพร่ภาพอินฟราเรดใกล้ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ซึ่งช่วยให้นักดาราศาสตร์ทำแผนที่บริเวณที่ก่อตัวดาวของจักรวาลและเรียนรู้ว่า ดาราจักรแรกสุดและห่างไกลที่สุดเกิดขึ้น
เพื่อถ่ายภาพท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ นักวิจัยที่นำโดยผู้ที่มหาวิทยาลัยโตรอนโตได้ใช้เทคนิคใหม่กับฮับเบิลที่รู้จักกันในชื่อ Drift And SHift (Dash)
Dash สร้างภาพที่ใหญ่กว่าขอบเขตการมองเห็นมาตรฐานของฮับเบิลถึงแปดเท่า โดยการถ่ายภาพหลายภาพแล้วนำมาต่อเข้าด้วยกันเป็นภาพโมเสคหลักภาพเดียว คล้ายกับการถ่ายภาพพาโนรามาบนสมาร์ทโฟน
Dash ยังถ่ายภาพได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย กว่าเทคนิคทั่วไปคือการถ่ายภาพแปดภาพต่อวงโคจรของฮับเบิลแทนที่จะเป็นภาพเดียว บรรลุใน 250 ชั่วโมงซึ่งจะใช้เวลา 2,000 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ทีมงานอธิบายในบทความที่จะตีพิมพ์ใน The Ast วารสาร rophysical
การสำรวจความละเอียดสูงที่ชื่อว่า 3D-Dash จะช่วยให้นักวิจัยสามารถค้นหาวัตถุหายากและเป้าหมายสำหรับการสังเกตการณ์ติดตามผลด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ในระหว่างภารกิจที่มีมานานหลายทศวรรษ.
“นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลได้นำการฟื้นฟูในการศึกษาว่ากาแลคซีเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วง 10 พันล้านปีที่ผ่านมาของจักรวาล”ลามิยา มอว์ลา กล่าว จากมหาวิทยาลัยโตรอนโต
“โปรแกรม 3D-Dash ขยายมรดกของฮับเบิลในด้านการถ่ายภาพบริเวณกว้าง เพื่อให้เราสามารถเริ่มไขความลึกลับของกาแลคซี่นอกเหนือจากที่เรามีอยู่”
เป็นครั้งแรกที่ 3D-Dash ให้นักวิจัยทำแบบสำรวจใกล้อินฟราเรดแบบสมบูรณ์ของทุ่งคอสมอสทั้งหมด ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตข้อมูลที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดสำหรับการศึกษานอกดาราจักรนอกเหนือจากทางช้างเผือก
3D-Dash ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ขนาดของดวงจันทร์บนท้องฟ้าเกือบหกเท่าเมื่อมองจากโลก บันทึกนี้น่าจะยังไม่ถูกทำลายโดย JWST ผู้สืบทอดตำแหน่งของฮับเบิล ซึ่งสร้างขึ้นสำหรับภาพระยะใกล้ที่ละเอียดอ่อนเพื่อเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในพื้นที่เล็กๆ
กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลเป็นโครงการความร่วมมือระดับนานาชาติระหว่าง นาซ่าและองค์การอวกาศยุโรป
FacebookTwitterLinkedin