CleanSpark Inc. ได้เข้าซื้อกิจการ CleanSpark Inc. สำหรับหน่วย Ant Miner S19 XP จำนวน 1,800 หน่วย นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกาศความร่วมมือกับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานระบบระบายความร้อนด้วยการแช่ TMGcore เพื่อสร้างถังระบายความร้อนจำนวน 257 ถัง นอกจากนี้ TMGcore ยังให้กำลังการขุด 2 เมกะวัตต์ที่โรงงานระบายความร้อนด้วยการแช่ในเท็กซัส
CleanSpark Inc. ซึ่งเป็นบริษัทขุด bitcoin แบบยั่งยืน ได้ซื้อสัญญาซื้อขายหน่วย Ant Miner S19 XP จำนวน 1,800 หน่วยสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ตามข่าวประชาสัมพันธ์ที่ส่งไปยังนิตยสาร Bitcoin
เมื่อทั้งหมด ของคนงานเหมืองจากสัญญาซื้อถูกนำไปใช้งาน CleanSpark ประมาณการว่าจะเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ 252 petahashes ต่อวินาที (PH/s) คาดว่าเครื่องขุดจะเริ่มมาถึงโรงงานของบริษัทในช่วงเดือนสิงหาคม และจะดำเนินการส่งออกต่อไปในช่วงหกเดือนข้างหน้า
“เราสามารถทำสัญญาได้ในราคาสุดพิเศษ เนื่องจากความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ของเราและสถานการณ์เฉพาะที่สภาวะตลาดในปัจจุบันได้สร้างขึ้น” แซค แบรดฟอร์ด ซีอีโอของ CleanSpark กล่าว
“แนวทางที่เน้นโครงสร้างพื้นฐานเป็นอันดับแรกทำให้เรามีโอกาสมากมายในการเผชิญกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทำให้เราส่งมอบมูลค่าที่เหลือเชื่อให้กับผู้ถือหุ้นของเรา ในขณะที่เรายังคงทำงานที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยของ bitcoin blockchain แบรดฟอร์ดกล่าวต่อ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมมือกับ TMGcore Inc ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการจำหน่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลประสิทธิภาพสูงเพื่อปรับปรุงระบบทำความเย็นแบบแช่
ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ TMGcore CleanSpark จะได้รับถังแช่เย็น 257 ถังซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของคนงานเหมืองในขณะที่ลดอัตราความล้มเหลว แต่ละถังสามารถบรรจุเครื่อง Antminer Sj19 Pro ได้มากถึง 28 เครื่อง และจะนำไปใช้ที่โรงงาน CleanSpark’s College Park, GA เป็นชุดๆ
TMGcore จะจัดหากำลังการผลิตโคโลเคชั่นสองเมกะวัตต์ (MW) ที่โรงงานทำเหมืองระบบทำความเย็นแบบจุ่มที่ล้ำสมัยในเมืองพลาโน รัฐเท็กซัส
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ CleanSpark ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทขุด bitcoin ที่ใหญ่ที่สุด และบริษัทที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการขุด bitcoin อย่างยั่งยืนด้วยการจัดหาโซลูชั่น HPC immersion-cooling ของ TMGcore” JD Enright กล่าว ซีเนียร์ ซีอีโอของ TMGcore “โซลูชันการแช่ของเราใช้น้ำน้อยลงถึง 77% และมีประสิทธิภาพมากกว่าการระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิมถึง 4,000 เท่า”