No Nothing Phone (1) อาจมีราคาน้อยกว่าที่รายงานในตอนแรก มีข่าวลือเพียงเรื่องเดียวเกี่ยวกับราคาของโทรศัพท์ที่โผล่ขึ้นมาจนถึงขณะนี้ และเสนอราคาป้ายไว้ที่ 500 ยูโร มีข่าวลือใหม่มาแล้วโดยให้ข้อมูลที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ไม่มีโทรศัพท์พื้นฐาน (1) อาจลงเอยด้วยค่าใช้จ่ายน้อยกว่าที่คุณคิดมาก
ข้อมูลนี้มาจาก RootMyGalaxy และแหล่งที่มาไม่ได้ แค่แชร์ราคาโทรศัพท์แต่ยังมีรูปภาพและสเปกบางส่วนอีกด้วย ตามข้อมูลที่แชร์ รุ่น RAM 8GB ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB จะมีราคา 397 เหรียญสหรัฐฯ
ไม่ใช่รุ่นเดียวที่จะวางจำหน่าย รุ่นที่มี RAM 8GB และที่เก็บข้อมูล 256GB จะเปิดตัวด้วยราคา 419 ดอลลาร์ รุ่นยอดนิยมจะมี RAM 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB และมีราคา $456
ตอนนี้ โปรดทราบว่าเราไม่ทราบว่าป้ายราคาเหล่านี้คือตลาดใด คาดว่าโทรศัพท์รุ่นนี้จะเปิดตัวในอินเดียและยุโรป รวมถึงประเทศอื่นๆ บางประเทศ มันไม่ได้มาที่สหรัฐอเมริกาแม้ว่า สิ่งเหล่านี้อาจเทียบเท่ากับป้ายราคาในอินเดีย หากมีความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
หากอุปกรณ์มีค่าใช้จ่ายมากจริง ๆ ก็อาจดึงดูดผู้บริโภคได้มากขึ้น ราคาเริ่มต้นที่ $ 397 นั้นต่ำกว่าราคา€ 500 ($ 530) ไม่จำเป็นต้องพูด หากคุณดูภาพด้านล่าง คุณจะเห็นการเรนเดอร์ของ Nothing Phone (1) ทั้งขาวดำ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากแหล่งที่มา ดูเหมือนว่าการเรนเดอร์สองภาพจะรวมกันเป็นภาพเดียวได้ไม่ดี ดังนั้นจึงเป็นพื้นหลังหลากสีที่แปลกตา
คาดว่าจะมีจอแสดงผล OLED 120Hz พร้อมการชาร์จ 45W
แล้วสเปคล่ะ? RootMyGalaxy ได้แบ่งปันข้อมูลไม่น้อย ตามแหล่งข่าว โทรศัพท์จะมีหน้าจอ OLED ขนาด 6.55 นิ้ว 120Hz ซึ่งน่าจะเป็นแผง fullHD+
Snapdragon 778G+ จะเป็นเชื้อเพลิงให้กับโทรศัพท์ ในขณะที่ทั้งรุ่น 8GB และ 12GB LPDDR5 RAM จะมีจำหน่าย โทรศัพท์จะมีตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลแบบ UFS 3.1 ขนาด 128GB และ 256GB ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
แบตเตอรี่จะมาพร้อมแบตเตอรี่ 4,500mAh และรองรับการชาร์จแบบมีสาย 45W คุณสามารถคาดหวังการชาร์จแบบไร้สาย 15W และการชาร์จแบบไร้สายย้อนกลับ 5W Android 12 จะติดตั้งมาให้ล่วงหน้าพร้อมกับ Nothing OS ด้านบน
กล้องหลัก 50 เมกะพิกเซลจะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยรอง 16 เมกะพิกเซล กล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 เมกะพิกเซลจะรวมอยู่ในแพ็คเกจด้วย
Nothing Phone (1) มีน้ำหนัก 199 กรัม ในขณะที่ความหนา 7.55 มม. ลำโพงสเตอริโอจะเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจ และจะรองรับระบบเสียง Dolby Atmos จะมีการเชื่อมต่อ 5G และเช่นเดียวกันกับ Bluetooth 5.2