.fb-comments,.fb-comments span,.fb-comments span iframe[style]{min-width:100%!important;width:100%!important}
Adam Waldron เป็นดีไซเนอร์ชาวอังกฤษซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน และตามเว็บไซต์ของเขา เขา “ยังเป็นนางแบบและช่วยผลิตสินค้าโดยมีเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนและการนำกลับมาใช้ใหม่” หนึ่งในความคิดริเริ่มของเขาในการจัดการกับ”ความยั่งยืนและการนำกลับมาใช้ใหม่”ด้วยจักรยานยนต์
เพื่อความยั่งยืน เขาต้องการรถจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้ใหม่ เขาได้”ล้มเหลว”ในการร่วมทุนคาเฟ่เรซเซอร์ มอเตอร์ไซค์พื้นฐานที่ Waldron ใช้คือ Honda CB100 จากช่วงปี 1980 การขายรวมชิ้นส่วนอะไหล่และเครื่องยนต์เบนซินที่ Waldron ได้รับเพื่อใช้งานในการถอดออกจากแชสซี
ขั้นตอนต่อไปของการร่วมทุนคือการจัดหามอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่จากผู้เชี่ยวชาญในประเทศจีน การสร้างสรรค์ของ Waldron ใช้ฮับมอเตอร์ที่รับพลังงานไฟฟ้าจากชุดแบตเตอรี่หลักหนึ่งก้อนซึ่งพบว่ามีมอเตอร์ขนาด 100cc ไว้ใช้งาน Waldron ผลิตและประดิษฐ์กล่องแบตเตอรี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ ตามความเห็นของเขา จักรยานสามารถวิ่งได้ไกลถึง 55 ไมล์จากแบตเตอรี่เต็ม
นอกเหนือจากการสลับมอเตอร์ที่เห็นได้ชัด Waldron ยังชี้ให้เห็นว่าเบรคหลังของจักรยานถูกเปลี่ยนจากอุปกรณ์กระตุ้นด้วยสายเคเบิล กับอุปกรณ์ไฮดรอลิก ซึ่งสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาว่าฮับน่าจะน่าจะเปลี่ยนดรัมหลังออก เบรกหลังมาพร้อมกับเบรกหน้าซึ่งยังคงจานเบรกที่มั่นคง และคันเร่งที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดียวกับรถจักรยานยนต์ทั่วไป
ไม่ว่า Waldron จะเก็บขั้นต้นไว้อย่างไร เขาก็ทำ นอกจากมอเตอร์ เบรคหลัง และชุดดุมล้อแล้ว จักรยานส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิมทุกประการ เบาะนั่ง แท้งค์ ดุมล้อทางเข้า และตะเกียบ ไฟทั้งหมด และตัวถังส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม
เนื่องจากความเรียบง่ายของจักรยาน การพึ่งพาอาศัยกันจึงเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่การใช้งานก็ทำได้ น่าสงสัยเล็กน้อยบนทางหลวงเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ Waldron กล่าวถึงความเร็วสูงสุดของ”CB100-E”ถูกตรึงไว้ที่ 35 ไมล์ต่อชั่วโมง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือราคาโดยรวมของจักรยานยนต์นั้นต่ำกว่า 2,000 ปอนด์หรือประมาณ 2,400 ดอลลาร์สหรัฐ ประสิทธิภาพเหมือนกับ e-bikes ประมาณ 50ccs ที่คู่ควรกับพลังงานไฟฟ้า แต่คุณลักษณะนี้แสดงถึงความสวยงามที่แฟน ๆ ที่ปรับแต่งเองจำนวนมากสามารถเพิ่มพลังได้
ให้คะแนนโพสต์นี้
การแบ่งปันคือความห่วงใย!