การอัปเดต iOS 17 ที่ Apple วางแผนจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนจะรวมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพไว้ด้วย อ้างอิงจาก Mark Gurman แห่งบลูมเบิร์ก จะมีฟีเจอร์สำหรับติดตามอารมณ์ และ Apple มีแผนจะนำแอป Health มาสู่ iPad เป็นครั้งแรก
Apple มีแอป Health มานานแล้ว แต่มีให้ใช้เฉพาะใน iPhone ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการเปิดตัว iOS 17 แอปสุขภาพบน iPad จะช่วยให้ผู้ใช้มีหน้าจอมากขึ้นสำหรับการดูตัวชี้วัดด้านสุขภาพ ผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ใบสั่งยา การทดสอบในห้องปฏิบัติการจากแพทย์ และอื่นๆ เป้าหมายของ Apple คือการปรับปรุงความนิยมของแอป Health ในสถานพยาบาลซึ่งมีการใช้แท็บเล็ตอย่างแพร่หลาย
นอกเหนือจากการนำแอป Health มาไว้ใน iPad แล้ว Apple วางแผนที่จะแนะนำตัวติดตามอารมณ์แบบใหม่ ซึ่งจะ ให้ผู้ใช้ติดตามอารมณ์ของพวกเขา ตอบคำถามเกี่ยวกับวันของพวกเขา และดูผลลัพธ์เมื่อเวลาผ่านไป ในอนาคต สามารถใช้อัลกอริทึมเพื่อกำหนดอารมณ์ของผู้ใช้ผ่านรูปแบบการพูด สิ่งที่พวกเขาพิมพ์ และข้อมูลอื่นๆ แต่ Apple จะเริ่มต้นด้วยการติดตามอารมณ์
ฟังก์ชันติดตามอารมณ์ที่ Apple แว่วๆ มาว่าแอพ Health ใน iOS 17 จะแยกออกจากแอพบันทึกประจำวันที่มีข่าวลือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามข้อมูลของ Gurman แอปบันทึกประจำวันจะไม่ใช่ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ แต่จะทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมของบริการ Find My และฟีเจอร์ระบุตำแหน่งอื่นๆ แทน เนื่องจาก Apple ต้องการขยายความสามารถด้านโซเชียลเน็ตเวิร์กของ Find My
แอปสุขภาพยังได้รับการตั้งค่าให้มีคุณสมบัติใหม่สำหรับการจัดการสภาพการมองเห็น เช่น สายตาสั้น ตามที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ ชุดหูฟัง AR/VR ที่ Apple มีอยู่ในผลงานจะรวมคุณสมบัติด้านสุขภาพ เช่น แอปการทำสมาธิที่จะนำผู้ใช้ไปสู่การทำสมาธิอย่างสงบ
ในปีหน้า Apple จะขยายการให้บริการด้านสุขภาพ ด้วยบริการโค้ชสุขภาพรูปแบบใหม่ ชื่อรหัสว่า Quartz ซึ่งเป็นบริการที่ใช้ AI จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้ออกกำลังกาย ปรับปรุงพฤติกรรมการกิน และดำเนินการเพื่อปรับปรุงการนอนหลับ บริการนี้จะใช้ข้อมูลจาก Apple Watch เพื่อเสนอคำแนะนำส่วนบุคคลและสร้างโปรแกรมการฝึกสอนที่ปรับให้เหมาะกับคุณ โดย Apple วางแผนที่จะเรียกเก็บค่าบริการรายเดือน ในขณะที่บริการนี้วางแผนไว้สำหรับปี 2024 Gurman เตือนว่าอาจ”ยกเลิกหรือเลื่อนออกไป”
แผนสุขภาพที่สำคัญอื่นๆ ในอนาคต ได้แก่ การตรวจวัดความดันโลหิตสำหรับ Apple Watch และการตรวจระดับน้ำตาลแบบไม่รุกล้ำ ซึ่งทั้งสองฟังก์ชันที่ Apple มี ทำงานมาหลายปีแล้ว