Apple กำลังเปิดตัวการอัปเดต Rapid Security Response รุ่นสาธารณะครั้งแรกสำหรับผู้ใช้ iOS และ macOS ทุกคน การอัปเดต iOS Security Response 16.4.1 (a) และ macOS Security Response 13.3.1 (a) ใหม่พร้อมให้ใช้งานบนอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ทั้งหมดแล้ว

ในเดือนตุลาคม 2022 เทคโนโลยี ประกาศการอัปเดต Rapid Security Responses ที่จะออกเฉพาะการแก้ไขความปลอดภัยให้กับ ผู้ใช้บ่อยขึ้นในการอัปเดต iOS, iPadOS และ macOS ในอนาคตโดยไม่ต้องปล่อยการอัปเดตระบบปฏิบัติการแบบเต็ม

Apple เปิดตัวการอัปเดต Rapid Security Response 16.4 (a) และ macOS Security Response 13.3 (a) ใน iOS 16.4 เบต้า 2 เป็นครั้งแรก และไม่กี่วันต่อมา บริษัทได้เปิดตัว Rapid Security Response iOS 16.4 (b)

อย่างไรก็ตาม ในช่วงการทดสอบเบต้า การอัปเดตไม่ได้รวมบันทึกประจำรุ่นซึ่งแสดงรายการคุณลักษณะใหม่ ขณะนี้ การอัปเดตการตอบสนองด้านความปลอดภัยเวอร์ชันสาธารณะสำหรับ iOS และ macOS ยังไม่มีบันทึกย่อประจำรุ่นที่มีรายละเอียดซึ่งใช้ประโยชน์จากแพตช์ดังกล่าว

วิธีดาวน์โหลดการอัปเดต Rapid Security Response สำหรับ iOS 16.4.1 และ macOS 13.3.1

เนื่องจาก Apple ได้ทำให้ Rapid Security Responses ใหม่พร้อมใช้งานกับ iOS 16.4.1, iPadOS 16.4.1 และ macOS 13.3.1 ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของตนได้รับการอัปเดตเป็น iOS และ macOS เวอร์ชันล่าสุดแล้ว

ในการติดตั้งการอัปเดต ต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

บน iOS และ iPadOS

เปิดการตั้งค่า > ทั่วไป > แตะการอัปเดตซอฟต์แวร์ บนตัวเลือก “การอัปเดตอัตโนมัติ” และเปิดคุณลักษณะ’การตอบสนองด้านความปลอดภัยและไฟล์ระบบ’

บน macOS

คลิกที่การตั้งค่าระบบ > ทั่วไป > ซอฟต์แวร์ อัปเดต คลิกที่ตัวเลือก “การอัปเดตอัตโนมัติ” และเปิดคุณลักษณะ “ติดตั้งการตอบสนองด้านความปลอดภัยและไฟล์ระบบ”

เมื่อเปิดใช้งานคุณลักษณะนี้ใน iOS และ macOS การอัปเดตการตอบสนองด้านความปลอดภัยจะปรากฏในส่วน “การอัปเดตซอฟต์แวร์”

เพียงเลือกปุ่ม”ดาวน์โหลดและติดตั้ง”เพื่อติดตั้ง

ในฐานะยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายละเอียดว่า Security Responses ใหม่มีการปรับปรุงด้านความปลอดภัยที่สำคัญ ผู้ใช้ ต้องดาวน์โหลดโดยเร็วที่สุด

Rapid Security Responses เป็นซอฟต์แวร์ประเภทใหม่สำหรับ iPhone, iPad และ Mac พวกเขานำเสนอการปรับปรุงความปลอดภัยที่สำคัญระหว่างการอัปเดตซอฟต์แวร์ ตัวอย่างเช่น การปรับปรุงเว็บเบราว์เซอร์ Safari สแต็กเฟรมเวิร์ก WebKit หรือไลบรารีระบบที่สำคัญอื่นๆ นอกจากนี้ยังอาจใช้เพื่อลดปัญหาด้านความปลอดภัยบางอย่างได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น ปัญหาที่อาจถูกนำไปใช้ประโยชน์หรือมีรายงานว่ามีอยู่”ในธรรมชาติ”

อ่านเพิ่มเติม:

Categories: IT Info