เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Apple ได้เปิดตัว Apple Watch Ultra ใหม่อย่างภาคภูมิใจ และ Garmin ก็มีอะไรจะพูดในทันที แม้ว่าจะไม่ได้กล่าวถึงบริษัทโดยตรง แต่ Garmin ได้โพสต์ทวิตเตอร์หลังจากเหตุการณ์ของ Apple ไปจนถึงการนอนที่ป่วย เมื่อพูดถึงสมาร์ทวอทช์และนาฬิกาสปอร์ต ปัจจัยที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียวคืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ และ Apple ได้แสดงครั้งใหญ่ว่า Apple Watch Ultra สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานถึง 60 ชั่วโมงในโหมดพลังงานต่ำได้อย่างไร
ซึ่งตามจริงแล้วถือว่าดีทีเดียวเมื่อพิจารณาถึงทุกสิ่งที่นาฬิกาทำ แม้แต่ Galaxy Watch 5 Pro ของ Samsung ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 80 วันในโหมดประหยัดพลังงาน แต่ Garmin ไม่มีเลย ในการเสนอราคาเพื่อโปรโมตคือ Enduro 2 ใหม่ Garmin กล่าวว่า”วัดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ในไม่กี่เดือน ไม่ใช่ชั่วโมง” แม้ว่าจะมีอะไรมากกว่านั้นมากกว่านาฬิกาที่ไม่ยอมตายนานกว่าหนึ่งเดือน อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับกรณีการใช้งานและส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์
Apple Watch Ultra ไม่สามารถแข่งขันกับ Garmin Enduro 2 ในเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่
เหตุผลหลักว่าทำไม Enduro 2 มีอายุการใช้งานยาวนานมากเพราะเป็นนาฬิกาที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ดังนั้นแม้จะไม่มีที่ชาร์จที่เหมาะสม คุณก็สามารถเติมพลังให้แบตเตอรี่ด้วยพลังของดวงอาทิตย์ได้ เช่นเดียวกับ Superman ที่เติมพลังของเขา นาฬิกาสปอร์ตของ Garmin จำนวนมากมีความสามารถนี้ และมีบทบาทสำคัญในการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานกว่าปกติ
แม้ในขณะที่ใช้คุณสมบัติที่มีความต้องการมากที่สุด Enduro 2 ก็ดูเหมือนจะไม่เท่ากัน อย่างน้อยก็ไม่ได้มาจากความชอบของ Apple จากข้อมูลของ Garmin Enduro 2 นั้นใช้งานได้นานถึง 150 ชั่วโมงในโหมด GPS ซึ่งมากกว่าห้าเท่าของที่ Apple นำเสนอใน Apple Watch Ultra ด้วยการใช้งานปกติ ซึ่งเราสามารถสรุปได้เพียงว่ารวมถึงการใช้คุณสมบัติ GPS เท่านั้น
หากผู้ใช้ต้องการทำสิ่งต่าง ๆ เพิ่มเติม Garmin กล่าวว่า Enduro 2 สามารถใช้งานได้นานถึง 34 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ ในทุกบัญชี Apple Watch Ultra มอบข้อเสนอมากมายให้กับผู้ใช้ที่ต้องการอยู่ในระบบนิเวศของ Apple และต้องการคุณสมบัติเฉพาะกลางแจ้ง/การผจญภัย แต่ผู้ที่ให้ความสำคัญกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่เหนือสิ่งอื่นใด อาจต้องการพิจารณาดู Enduro 2
เราวัดอายุแบตเตอรี่เป็นเดือน ไม่ใช่ชั่วโมง #Enduro2 pic. twitter.com/OcTLdpvHV6
— Garmin (@Garmin) 8 กันยายน , 2022