Warner Bros. ประกาศแผนการในวันนี้ เปิดตัวบริการสตรีมใหม่ที่จะรวมเนื้อหา HBO Max และ Discovery+ เข้าด้วยกัน แบรนด์ HBO จะถูกยกเลิก และบริการสตรีม จะถูกเรียกว่า”Max”
HBO ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีความพยายามในการรีแบรนด์ที่แตกต่างกันหลายครั้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้มีบริการสตรีมมิ่ง HBO GO และ HBO Now ที่รวมเข้ากับ HBO Max ในปี 2020 การรีแบรนด์”Max”ที่ยกเลิกชื่อ HBO เกิดขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง Discovery และ WarnerMedia ในปี 2022 ในช่วงเวลาของการควบรวมกิจการ บริษัท Warner Bros. Discovery ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าในที่สุด HBO Max จะรวมเข้ากับ Discovery+ และข่าวลือในเดือนธันวาคมบอกใบ้ถึงการตั้งชื่อ”Max”
การละทิ้งการสร้างแบรนด์ HBO เป็นการตัดสินใจที่น่าสงสัย บริการสตรีมมิ่ง HBO Max เป็นที่รู้จักจากรายการยอดนิยมบางรายการ เช่น Succession, Game of Thrones, Euphoria, The White Lotus และ The Last of Us บริการสตรีมมิ่ง Max จะมีจุดราคาที่แตกต่างกันสามจุด: Max Ad-Lite: $9.99/เดือน หรือ $99.99/ปี รวม 2 สตรีมพร้อมกัน ความละเอียด 1080p ไม่มีการดาวน์โหลดแบบออฟไลน์ และคุณภาพเสียงรอบทิศทาง 5.1 สนับสนุนโดยโฆษณา ไม่มีโฆษณาสูงสุด: $15.99/เดือน หรือ $149.99/ปี รวมสตรีมพร้อมกัน 2 สตรีม ความละเอียด 1080p ดาวน์โหลดออฟไลน์ 30 รายการ และคุณภาพเสียงรอบทิศทาง 5.1 Max Ultimate Ad Free: $19.99/เดือน หรือ $199.99/ปี รวมการสตรีมพร้อมกัน 4 รายการ ความละเอียดสูงสุด 4K UHD ดาวน์โหลดออฟไลน์ 100 รายการ และคุณภาพเสียง Dolby Atmos
Warner Bros. กล่าวว่าสมาชิก HBO Max เดิมที่สมัครผ่าน HBO จะสามารถเข้าถึง Max ในราคาเดียวกับการสมัคร HBO Max พร้อมข้อมูลเพิ่มเติม มีอยู่ในเว็บไซต์ HBO Max ผู้ที่สมัครสมาชิกผ่านผู้ให้บริการทีวี มือถือ หรืออุปกรณ์ไร้สายจะได้รับแจ้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงราคาหรือแผน
“Max”มีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 23 พฤษภาคม และจะรวมเนื้อหา HBO Max และ Discovery TV เนื้อหาเช่น HGTV, Food Network, ID, TLC และอื่นๆ นอกจากการเปิดตัวบริการแล้ว Warner Bros. ยังได้ประกาศเปิดตัวซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง Harry Potter ใหม่ รวมถึงรายการพรีเควล Game of Thrones อีกรายการ
ในบางแพลตฟอร์ม แอป HBO Max จะอัปเดตเป็น Max โดยอัตโนมัติ และอื่น ๆ ผู้ใช้จะได้รับแจ้งให้ดาวน์โหลดแอป Max เมื่อพยายามเปิดแอป HBO Max ลูกค้า Discovery+ สามารถสมัครเป็นลูกค้า Max ใหม่ได้ เนื่องจากการสมัครรับข้อมูลเหล่านั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง Discovery+ จะยังคงให้บริการแบบสแตนด์อโลนต่อไป