โดยพื้นฐานแล้วฉันใช้ทุกโอกาสเพื่อเอาชนะกลอง Hyper Light Breaker เพราะมันเป็นโร๊คไลค์โลกเปิดที่มีแนวโน้มมาจากสตูดิโออินดี้ที่มีผลงานที่น่าอิจฉา และ ขอบ 3 84 (ลดราคาแล้ว) ทำให้ฉันสบายใจด้วยการยืนยันว่าเป็นฉัน สงสัยเกมนี้ยืมมาจากเกมโปรดของฉันในปี 2021 นั่นคือ Solar Ash
ผู้กำกับ Alx Preston จากสตูดิโอ Heart Machine ซึ่งพัฒนา Solar Ash และตอนนี้กำลังพัฒนา Hyper Light Breaker บอกกับ Edge เกี่ยวกับ”ความท้าทายในการผสมผสานเกมสองประเภทที่แตกต่างกันมาก – ประเภทที่ดูเหมือนไม่เข้ากันโดยพื้นฐานในบางแง่มุม”ด้วยการตั้งค่าโร๊คไลค์แบบโลกเปิดของ Hyper Light Breaker ส่วนใหญ่ของสิ่งนั้นคือ”ความสมดุลที่โลกไม่ได้เปิดกว้างสำหรับการเปิดกว้าง”และการหาจุดกึ่งกลางสำหรับระดับงานฝีมือและขั้นตอน
“ถึงแม้จะเป็นเกมที่มีขั้นตอน แต่การออกแบบด่านที่ดีก็มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรา”เพรสตันกล่าว”มันเป็นเพียงวิธีคิดที่แตกต่างเกี่ยวกับการออกแบบเลเวล [ที่เกี่ยวข้องกับ] อัลกอริธึมและคณิตศาสตร์ คุณยังสามารถบรรลุการออกแบบเลเวลที่ดีได้ด้วยวิธีนี้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ประสบการณ์ที่คัดสรรมาอย่างหมดจดเหมือนที่คุณจะได้รับใน [Hyper Light Drifter] เป็นเพียงโครงสร้างและรูปแบบที่แตกต่างกัน และนั่นคือเหตุผลที่เราเริ่มทำสิ่งที่เปิดกว้างมากขึ้นตั้งแต่แรก นั่นคือการยอมรับความจริงนั้น”
(เครดิตรูปภาพ: Heart Machine)
จุดเด่นสำหรับฉันคือข้อสังเกตของ Preston ที่ตัวอย่าง Hyper Light Breaker บอกเป็นนัย และอย่างที่คุณคาดหวังจากสตูดิโอที่สร้างเกมที่สามและเป็นเกม 3D เกมที่สอง”มันนำองค์ประกอบต่าง ๆ จาก [Drifter] และ แม้แต่จาก Solar Ash ในบางวิธี”
อย่างที่ฉันพูดในรีวิว Solar Ash ของฉัน เกมแพลตฟอร์ม 3 มิติลงเอยด้วยการเป็นหนึ่งในเกมโปรดของฉันในปี 2021 แม้จะเข้ามาในช่วงปลายปี ส่วนใหญ่เป็นเพราะการเคลื่อนไหวที่ชวนสะกดใจเป็นจุดสนใจ จากประสบการณ์ทั้งหมด ฉันเคยเห็นตัวเอกของเรื่อง Solar Ash Rei ในตัวละครที่สามารถเล่นได้ของ Hyper Light Breaker และน่าตื่นเต้นที่ได้ยินว่า DNA ของเกมยังคงอยู่ผ่านผู้สืบทอดทางวิญญาณของ Drifter ฉันอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นและรู้สึกว่ามันทำเพื่อตัวฉันเองอย่างไร
ถึงกระนั้น Breaker ก็”ทำสิ่งของตัวเองและด้วยเหตุผลที่ดี”เพรสตันกล่าว”เพราะท้ายที่สุดแล้วเราต้องการลองใช้รูปแบบและโครงสร้างที่ไม่เหมือนใครซึ่งไม่มีใครทำ และสร้างประเภทย่อยสำหรับสิ่งนี้ และเราก็ทำมันได้สำเร็จ”
ทรอย เบเกอร์และโรเจอร์ คลาร์กปะทะกันในหนังระทึกขวัญแนวไซไฟเรื่อง Fort Solis ซึ่งเป็นดาวเด่นของ Edge 385